จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาวระบุว่า ขณะนี้ยูเครนได้นำคลัสเตอร์บอมบ์ หรือระเบิดลูกปราย ที่ได้จากสหรัฐฯ ไปใช้งานในสนามรบแล้ว โดยได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสร้างผลกระทบต่อการจัดแนวตั้งรับและการเคลื่อนกำลังของทหารรัสเซีย

คลัสเตอร์บอมบ์ที่สหรัฐฯ มอบให้ยูเครนส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของกระสุนปืนใหญ่ เหมาะกับการโจมตีทหารที่หลบซ่อนในสนามเพลาะและป้อมค่ายของฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากระเบิดลูกปรายที่กระจายออกมาจะกินพื้นที่เป็นวงกว้างไม่สามารถเคลื่อนกำลังต่อไปได้หากไม่มีการเก็บกู้ออกไป

“ปริโกชิน” ผู้นำแวกเนอร์ปรากฏตัวครั้งแรกที่เบลารุสหลังก่อกบฏ

รัสเซียโจมตีโรงเก็บธัญพืชยูเครน เสียหาย 6 หมื่นตัน

เผยรายละเอียดการข้ามพรมแดนเกาหลีเหนือของทหารสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม อาจมีคลัสเตอร์บอมบ์บางส่วนที่ไม่ทำงาน และเป็นอันตรายกับพลเรือนในอีกหลายสิบปีต่อมา หลายประเทศจึงห้ามใช้อาวุธชนิดนี้ รวมถึงประเทศพันธมิตรตะวันตกเช่นแคนาดา อังกฤษและสเปนที่คัดค้านการส่งคลัสเตอร์บอมบ์ แม้สหรัฐฯยืนยันว่าคลัสเตอร์บอมบ์ที่มอบให้แก่ยูเครนมีอัตราด้าน ( Dud Rate) เพียง 2.35 เปอร์เซนต์

ขณะที่ พลเอก โอเล็กซานเดอร์ เซียร์สกี (Oleksandr Syrskyi) ผู้บัญชาการกองทัพยูเครนภาคตะวันออกยืนยันว่าคลัสเตอร์บอมบ์มีความจำเป็นในการสร้างความสูญเสียต่อหน่วยทหารราบของรัสเซียให้ได้มากที่สุด

พลเอก เซียร์สกี เชื่อว่าจำนวนทหารรัสเซียที่เสียชีวิตมากขึ้นจะยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลรัสเซีย เนื่องจากต้องเผชิญกับคำถามจากครอบครัวของทหารเหล่านี้

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ นาย โจเซป บอร์เรล (Josep Borrell) หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปหรืออียู ได้เสนอแผนการช่วยเหลือยูเครนชุดใหม่ต่อที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอียูเมื่อวานนี้ (วันพฤหัสบดี)

ภายใต้แผนการที่บอร์เรลเสนอ สหภาพยุโรปจะจัดสรรงบประมาณรวม 20,000 ล้านยูโร หรือ 750,000 ล้านบาท ตลอด 4 ปีข้างหน้า โดยจะเบิกจ่ายให้กับชาติสมาชิกที่มอบความช่วยเหลือให้แก่ยูเครนในการสู้รบกับรัสเซียคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

เงินก้อนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ทั้งที่สามารถสังหารศัตรูได้และอุปกรณ์ที่ไม่มีความอันตรายต่อชีวิตเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการของบางประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป

โดยการจัดสรรเงินดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของกลไกสันติภาพยุโรป ซึ่งเป็นช่องทางระดมทุนนอกงบประมาณปกติที่จนถึงตอนนี้ได้มอบความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนไปแล้ว 5,600ล้านยูโรหรือประมาณ200,000ล้านบาท